top of page

ROI ของการโค้ช: การลงทุนที่คุ้มค่าทั้งในระดับบุคคลและองค์กร

ในโลกยุคใหม่ที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยหรือกลยุทธ์เฉียบคม แต่ยังให้ความสำคัญกับ “คน” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความยั่งยืน

และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการพัฒนาคนคือ “การโค้ช” (Coaching)


ผลตอบแทนจากการลงทุนในการโค้ช (ROI in Coaching)
ผลตอบแทนจากการลงทุนในการโค้ช (ROI in Coaching)

ทำไม ROI ของการโค้ชจึงสำคัญ?

การโค้ชคือการลงทุนที่ไม่เพียงให้ผลตอบแทนในเชิงตัวเลข แต่ยังส่งผลเชิงคุณภาพที่จับต้องได้ เช่น:

  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

  • พัฒนาความเป็นผู้นำ

  • ส่งเสริมความผูกพันและวัฒนธรรมองค์กร


ผลการวิจัยที่ยืนยันว่า “การโค้ช” ให้ผลตอบแทนจริง

📌 ICF (2024)

องค์กรที่ใช้การโค้ช ได้รับ ROI เฉลี่ย 7 เท่า ของต้นทุน

📌 American University

การโค้ชผู้บริหารสร้าง ROI สูงถึง 788% จากประสิทธิภาพและการรักษาพนักงาน

📌 BetterUp

การโค้ชช่วยให้ทีมขายประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นถึง 60%และเพิ่มแรงบันดาลใจในองค์กรถึง 40%

วิธีการวัดผล ROI ในการโค้ช

ROI ในการโค้ชสามารถประเมินได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ:


1. ผลลัพธ์เชิงปริมาณ: การเพิ่มยอดขาย การลดอัตราการลาออก หรือประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น 2. ผลลัพธ์เชิงคุณภาพ: การพัฒนาความพึงพอใจในงาน การสร้างความสัมพันธ์ในทีม หรือการพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำ


ROI ของการลงทุนในการโค้ช : คุณค่าที่มากกว่า ROI ในตัวเลข


การโค้ชสร้างมูลค่าเพิ่มในหลายมิติ และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะ ความเป็นผู้นำ และความผูกพันของพนักงานในองค์กร โดยประโยชน์หลัก ๆ ได้แก่:


1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: พนักงานที่ได้รับการโค้ชมีแนวโน้มที่จะมีความชัดเจนในเป้าหมาย มีการวางแผนงานที่ดีขึ้น และสามารถรับมือกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. เสริมสร้างความเป็นผู้นำ: ผู้บริหารที่ผ่านการโค้ชสามารถพัฒนาทักษะการนำทีม การสื่อสาร และการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น

3. ลดอัตราการลาออก: การโค้ชชิ่งช่วยสร้างความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กร ทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมองเห็นโอกาสในการเติบโต

4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง: การโค้ชส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง ซึ่งช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและยั่งยืน


ตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จจากการโค้ช


+ ไทยเบฟ: บริษัทชั้นนำในประเทศไทยที่นำการโค้ชมาใช้ในการพัฒนาผู้นำระดับสูงและพนักงาน ด้วยเป้าหมายในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนและส่งเสริมการเรียนรู้ต่อเนื่อง การลงทุนในการโค้ชของไทยเบฟช่วยเพิ่มความผูกพันของพนักงานและสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรในระยะยาว https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-sustainability/news-1455329


+ Google: บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกที่มีโปรแกรมโค้ชชิ่งเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้นำและการทำงานเป็นทีม โปรแกรมนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ในองค์กร รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง + IBM: IBM ลงทุนในการโค้ชเพื่อสนับสนุนการปรับตัวของพนักงานในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการปรับตัวในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเร็ว



ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จของการโค้ช


1. การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง:

การโค้ชที่ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของผู้บริหาร

2. การเลือกโค้ชที่เหมาะสม:

โค้ชที่เข้าใจบริบทขององค์กรและเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้

3. การนำ ผลลัพธ์ไปใช้จริง:

การติดตามผลและการนำแนวทางที่ได้จากโค้ชไปประยุกต์ใช้ในองค์กร


บทสรุป: การลงทุน"การโค้ช"ในองค์กร

คือ การลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว


การโค้ชไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือสำหรับการพัฒนา แต่เป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนทั้งในเชิงตัวเลขและคุณภาพ องค์กรที่ต้องการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว ควรพิจารณาการโค้ชชิ่งที่มีคุณภาพและนำผลลัพธ์ไปใช้จริงอย่างต่อเนื่อง “เพราะการพัฒนาบุคคล คือการพัฒนาองค์กร และการพัฒนาองค์กรคือการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน” . .


บทความและบรรณาธิการบทความโดย โค้ชหงส์หยก ฉิมพันธ์, ACC,

ประธานสหพันธ์โค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพฯ


ข้อมูลอ้างอิง :

สหพันธ์โค้ชสากล (ICF) https://coachingfederation.org/


ICF Bangkok คือศูนย์รวมของโค้ชไอซีเอฟมืออาชีพในประเทศไทย

ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล


ถ้าคุณอยากรู้จักการโค้ชแบบมืออาชีพที่สร้างผลลัพธ์ยั่งยืน

อย่าลืมติดตามเพจ ICF Bangkok เพื่อรับข้อมูลและเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของคุณ!


และถ้าคุณชอบบทความนี้ อย่าลืมกดติดตามเพจ

และแชร์ต่อเพื่อส่งต่อพลังแห่งการโค้ชให้คนรอบตัวคุณค่ะ!


#มาตรฐานโค้ชระดับสากล #โค้ชไอซีเอฟ #ICFBKK #BoldKeenKindred


 
 
 

Comments


bottom of page