ROI ของการโค้ช: การลงทุนที่คุ้มค่าทั้งในระดับบุคคลและองค์กร
- ICF Bangkok Chapter
- 7 days ago
- 1 min read
ในโลกยุคใหม่ที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยหรือกลยุทธ์เฉียบคม แต่ยังให้ความสำคัญกับ “คน” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความยั่งยืน
และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการพัฒนาคนคือ “การโค้ช” (Coaching)

ทำไม ROI ของการโค้ชจึงสำคัญ?
การโค้ชคือการลงทุนที่ไม่เพียงให้ผลตอบแทนในเชิงตัวเลข แต่ยังส่งผลเชิงคุณภาพที่จับต้องได้ เช่น:
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
พัฒนาความเป็นผู้นำ
ส่งเสริมความผูกพันและวัฒนธรรมองค์กร
ผลการวิจัยที่ยืนยันว่า “การโค้ช” ให้ผลตอบแทนจริง
📌 ICF (2024)
องค์กรที่ใช้การโค้ช ได้รับ ROI เฉลี่ย 7 เท่า ของต้นทุน
📌 American University
การโค้ชผู้บริหารสร้าง ROI สูงถึง 788% จากประสิทธิภาพและการรักษาพนักงาน
📌 BetterUp
การโค้ชช่วยให้ทีมขายประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นถึง 60%และเพิ่มแรงบันดาลใจในองค์กรถึง 40%
วิธีการวัดผล ROI ในการโค้ช
ROI ในการโค้ชสามารถประเมินได้ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ:
1. ผลลัพธ์เชิงปริมาณ: การเพิ่มยอดขาย การลดอัตราการลาออก หรือประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น 2. ผลลัพธ์เชิงคุณภาพ: การพัฒนาความพึงพอใจในงาน การสร้างความสัมพันธ์ในทีม หรือการพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำ
ROI ของการลงทุนในการโค้ช : คุณค่าที่มากกว่า ROI ในตัวเลข
การโค้ชสร้างมูลค่าเพิ่มในหลายมิติ และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะ ความเป็นผู้นำ และความผูกพันของพนักงานในองค์กร โดยประโยชน์หลัก ๆ ได้แก่:
1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: พนักงานที่ได้รับการโค้ชมีแนวโน้มที่จะมีความชัดเจนในเป้าหมาย มีการวางแผนงานที่ดีขึ้น และสามารถรับมือกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เสริมสร้างความเป็นผู้นำ: ผู้บริหารที่ผ่านการโค้ชสามารถพัฒนาทักษะการนำทีม การสื่อสาร และการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
3. ลดอัตราการลาออก: การโค้ชชิ่งช่วยสร้างความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กร ทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมองเห็นโอกาสในการเติบโต
4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง: การโค้ชส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง ซึ่งช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและยั่งยืน
ตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จจากการโค้ช
+ ไทยเบฟ: บริษัทชั้นนำในประเทศไทยที่นำการโค้ชมาใช้ในการพัฒนาผู้นำระดับสูงและพนักงาน ด้วยเป้าหมายในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนและส่งเสริมการเรียนรู้ต่อเนื่อง การลงทุนในการโค้ชของไทยเบฟช่วยเพิ่มความผูกพันของพนักงานและสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรในระยะยาว https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-sustainability/news-1455329
+ Google: บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกที่มีโปรแกรมโค้ชชิ่งเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้นำและการทำงานเป็นทีม โปรแกรมนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ในองค์กร รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง + IBM: IBM ลงทุนในการโค้ชเพื่อสนับสนุนการปรับตัวของพนักงานในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการปรับตัวในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จของการโค้ช
1. การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง:
การโค้ชที่ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของผู้บริหาร
2. การเลือกโค้ชที่เหมาะสม:
โค้ชที่เข้าใจบริบทขององค์กรและเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้
3. การนำ ผลลัพธ์ไปใช้จริง:
การติดตามผลและการนำแนวทางที่ได้จากโค้ชไปประยุกต์ใช้ในองค์กร
บทสรุป: การลงทุน"การโค้ช"ในองค์กร
คือ การลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
การโค้ชไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือสำหรับการพัฒนา แต่เป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนทั้งในเชิงตัวเลขและคุณภาพ องค์กรที่ต้องการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว ควรพิจารณาการโค้ชชิ่งที่มีคุณภาพและนำผลลัพธ์ไปใช้จริงอย่างต่อเนื่อง “เพราะการพัฒนาบุคคล คือการพัฒนาองค์กร และการพัฒนาองค์กรคือการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน” . .
บทความและบรรณาธิการบทความโดย โค้ชหงส์หยก ฉิมพันธ์, ACC,
ประธานสหพันธ์โค้ชนานาชาติ สาขากรุงเทพฯ
ข้อมูลอ้างอิง :
สหพันธ์โค้ชสากล (ICF) https://coachingfederation.org/
Forbes Coaches Council) https://councils.forbes.com/forbescoachescouncil
CoachHub https://www.coachhub.com/
ICF Bangkok คือศูนย์รวมของโค้ชไอซีเอฟมืออาชีพในประเทศไทย
ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล
ถ้าคุณอยากรู้จักการโค้ชแบบมืออาชีพที่สร้างผลลัพธ์ยั่งยืน
อย่าลืมติดตามเพจ ICF Bangkok เพื่อรับข้อมูลและเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของคุณ!
และถ้าคุณชอบบทความนี้ อย่าลืมกดติดตามเพจ
และแชร์ต่อเพื่อส่งต่อพลังแห่งการโค้ชให้คนรอบตัวคุณค่ะ!
#มาตรฐานโค้ชระดับสากล #โค้ชไอซีเอฟ #ICFBKK #BoldKeenKindred
Comments