เมื่อความเงียบอาจกลายเป็น "ภัยร้าย" มากกว่าการพูด : ถึงเวลาเปลี่ยนวัฒนธรรมการ “ให้ฟีดแบ็ก” ในสังคมไทย
- ICF Bangkok Chapter
- Jun 5
- 2 min read

ในสังคมที่ให้ความสำคัญกับความสุภาพ ลำดับชั้น และความเกรงใจ การให้ "ฟีดแบ็ก" โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้นำหรือผู้มีตำแหน่งสูงกว่า มักเป็นเรื่องที่หลายคนเลือกที่จะเก็บงำไว้ แม้จะตระหนักถึงพฤติกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลกระทบต่อทีมหรือบรรยากาศโดยรวมขององค์กร แต่ "ความเงียบ" ก็มักถูกเลือกใช้ เพียงเพราะความกังวลว่าจะถูกมองว่าไม่เคารพ หรือเกรงว่าสิ่งที่พูดไปจะไม่ได้รับการรับฟัง
อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของการโค้ชตามมาตรฐานสากลของ International Coaching Federation (ICF) ความเงียบในสถานการณ์ที่ควรเกิดบทสนทนาที่สร้างสรรค์นั้น มิได้หมายถึงความปลอดภัย แต่กลับเป็นการปล่อยให้พฤติกรรมที่ควรได้รับการสะท้อนคิดนั้น "เดินหน้าต่อไป" โดยปราศจากการทบทวนและปรับปรุง
ฟีดแบ็ก ไม่ใช่การตำหนิ แต่คือกระจกสะท้อนการเติบโต
การให้ฟีดแบ็กอย่างสร้างสรรค์ (Constructive Feedback) คือหนึ่งในทักษะสำคัญที่ ICF ส่งเสริมและเน้นย้ำมาโดยตลอด เพราะนี่คือเครื่องมืออันทรงพลังในการสร้าง "วัฒนธรรมแห่งการตื่นรู้" (Awareness Culture) ที่ซึ่งทุกคนในองค์กรสามารถเรียนรู้ พัฒนา และปรับเปลี่ยนจากความเข้าใจ ที่ลึกซึ้งจากภายใน
ข้อดีของการให้ฟีดแบ็กอย่างสร้างสรรค์:
เปิดมุมมองใหม่: ช่วยให้ผู้รับฟีดแบ็กเห็นในสิ่งที่ตนเองอาจมองข้ามไป
ลดความคลุมเครือ: สร้างความชัดเจนในความสัมพันธ์และแนวทางการทำงานร่วมกัน
เสริมสร้างความไว้วางใจ: ก่อให้เกิดความผูกพันและความเชื่อมั่นในทีม
กระตุ้นภาวะผู้นำ: ส่งเสริมการเติบโตของภาวะผู้นำอย่างยั่งยืน
ในทางตรงกันข้าม ความเงียบอาจนำไปสู่:
พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมซ้ำซาก: การกระทำที่ไม่สร้างสรรค์ยังคงดำเนินต่อไป
ความขุ่นข้องหมองใจ: การสะสมความไม่พอใจในทีมอย่างเงียบๆ
การสูญเสียความไว้วางใจ: ทำลายความปลอดภัยทางจิตใจในที่ทำงาน
วัฒนธรรมหลีกเลี่ยงความจริง: องค์กรที่คนไม่กล้าพูดความจริงต่อกัน
3 แนวทางสู่การให้ฟีดแบ็กอย่างสร้างสรรค์
เพื่อให้การให้ฟีดแบ็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ มีแนวทางที่ได้รับการยอมรับและนำไปใช้อย่างแพร่หลาย ดังนี้:
SBI Model (Situation – Behavior – Impact):
S – Situation (สถานการณ์): ระบุสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเจาะจง "เมื่อไหร่" "ที่ไหน"
ตัวอย่าง: "ในการประชุมทีมเมื่อเช้านี้..."
B – Behavior (พฤติกรรม): อธิบายพฤติกรรมที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน หลีกเลี่ยงการตัดสิน
ตัวอย่าง: "...ตอนที่คุณนำเสนอผลงานโครงการ X ผมสังเกตว่าคุณพูดแทรกเพื่อนร่วมทีมหลายครั้งเมื่อเขาพยายามจะถามคำถาม..."
I – Impact (ผลกระทบ): สะท้อนผลที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมนั้นต่อบุคคล ทีม หรือองค์กร
ตัวอย่าง: "...ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเพื่อนร่วมทีมบางคนอาจจะไม่กล้าแสดงความคิดเห็นหรือถามคำถามเพิ่มเติม และอาจทำให้เราพลาดข้อมูลสำคัญไปได้ครับ"
3 Ps Model (Praise – Problem – Potential): วิธีนี้ช่วยรักษาบรรยากาศเชิงบวกและเปิดใจผู้รับ
Praise (ชื่นชม): เริ่มต้นด้วยคำชื่นชมในสิ่งที่ผู้รับทำได้ดีอย่างจริงใจ
Problem (ปัญหา): ระบุประเด็นหรือพฤติกรรมที่ต้องการให้ปรับปรุงอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน
Potential (ศักยภาพ/ข้อเสนอแนะ): จบด้วยการเสนอแนะแนวทางแก้ไข หรือชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่ดีขึ้นหากมีการปรับเปลี่ยน
HEAR Framework: เหมาะสำหรับบทสนทนาที่ต้องการความละเอียดอ่อนสูง เช่น การให้ฟีดแบ็กกับผู้บริหารระดับสูง หรือในสถานการณ์ที่มีความแตกต่างทางอำนาจ
H – Hedge (พูดด้วยความถ่อมตน): เริ่มต้นอย่างนุ่มนวลและแสดงความเคารพ เช่น "ฉันอาจจะมองผิดไปก็ได้ แต่..." หรือ "มีบางอย่างที่ฉันอยากจะลองแลกเปลี่ยนมุมมอง..."
E – Emphasize (หาจุดร่วม): เน้นย้ำเป้าหมายหรือคุณค่าร่วมกัน เช่น "เราทุกคนต่างก็อยากให้โครงการนี้สำเร็จด้วยดี..."
A – Acknowledge (ยอมรับอีกฝ่าย): แสดงความเข้าใจในมุมมองหรือเจตนาดีของอีกฝ่าย เช่น "ฉันเข้าใจว่าคุณอาจจะตั้งใจให้งานออกมาดีที่สุด..."
R – Reframe (นำเสนอทางเลือกใหม่): เสนอแนะมุมมองหรือพฤติกรรมใหม่ที่เป็นประโยชน์กว่าเดิม
หลักการของ ICF กับการให้ฟีดแบ็ก
โค้ชที่ได้รับการรับรองจาก ICF จะดำเนินบทบาทโดยยึดมั่นใน จรรยาบรรณการโค้ช (ICF Code of Ethics) และ สมรรถนะหลักของการโค้ช (ICF Core Competencies) ซึ่งมีหลักปฏิบัติสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้ฟีดแบ็ก ได้แก่:
Competency 2: Embodies a Coaching Mindset (ดำรงตนในฐานะโค้ช): เคารพในศักยภาพและความสามารถของผู้รับการโค้ช (ในที่นี้คือผู้รับฟีดแบ็ก) โดยปราศจากอคติส่วนตัว
Competency 5: Maintains Presence (ดำรงอยู่กับปัจจุบัน): ให้ความสนใจอย่างเต็มที่กับบทสนทนาตรงหน้า รับฟังอย่างลึกซึ้งโดยไม่ด่วนตัดสิน
Competency 7: Evokes Awareness (กระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้): ใช้คำถามที่ทรงพลัง การสะท้อนความคิด หรือการแบ่งปันข้อสังเกต เพื่อช่วยให้ผู้รับฟีดแบ็กเกิดความเข้าใจเชิงลึกและมองเห็นหนทางในการพัฒนาตนเอง
หากองค์กรต้องการเปลี่ยนวัฒนธรรม ฟีดแบ็กคือจุดเริ่มต้น
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีการรับฟัง การเติบโต และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการ "อบรมเพียงครั้งเดียว" แต่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจาก:
ผู้นำที่เปิดใจ: พร้อมรับฟังฟีดแบ็ก แม้ในเรื่องที่อาจไม่รื่นหู
ทีมที่กล้าพูด: สื่อสารอย่างให้เกียรติและสร้างสรรค์
โค้ชมืออาชีพ: ผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยออกแบบและวางระบบการสะท้อนผลการปฏิบัติงาน (Feedback System) ภายในองค์กร
องค์กรที่ลงทุนในการสร้างวัฒนธรรมฟีดแบ็กเชิงบวกจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ชัดเจนและยั่งยืน:
การตัดสินใจที่เฉียบคมและแม่นยำยิ่งขึ้น
ระดับความไว้วางใจที่สูงขึ้นในทุกระดับขององค์กร
ภาวะผู้นำที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง
พนักงานรู้สึกว่าเสียงของตนเอง "มีความหมาย" และตนเอง "มีคุณค่า"
ขับเคลื่อนวัฒนธรรมการสื่อสารด้วยโค้ชมืออาชีพจาก ICF
โค้ชที่ได้รับการรับรองจาก ICF มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการออกแบบกระบวนการ
ที่ช่วยให้ "การให้ฟีดแบ็ก" ไม่ใช่เรื่องน่าอึดอัดใจอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรที่ทุกคนเข้าใจ ยอมรับ และพร้อมมีส่วนร่วมอย่างเต็มใจ
การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ
โดยสามารถเริ่มต้นจาก "ความตั้งใจที่จะฟัง และความกล้าที่จะพูดอย่างสร้างสรรค์"
คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการสร้างองค์กรที่เติบโตอย่างแท้จริง
บทความโดย โค้ชหงส์หยก ฉิมพันธ์, ACC
ประธานสหพันธ์โค้ชนานาชาติ (ICF) สาขากรุงเทพฯ
ข้อมูลอ้างอิง:
SBI Model (Center for Creative Leadership) : https://www.ccl.org/articles/leading-effectively-articles/closing-the-gap-between-intent-vs-impact-sbii/
HEAR Framework (Harvard Kennedy School): https://www.hks.harvard.edu/faculty-research/policy-topics/democracy-governance/hks-focuses-democracy-dialogue-and-disagreement
ICF Core Competencies : https://coachingfederation.org/resource/icf-core-competencies/
Feedback Strategies (MindTools) : https://www.mindtools.com/c0q1ut2/feedback
คำว่า Feedback เขียนทับศัพท์ ว่า "ฟีดแบ็ก" https://transliteration.orst.go.th/search
Comments